เนื่องด้วยตลาดสมาร์ทโฟนนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ตลาดแอพพิลเคชันโตตามไปด้วย แถมยังมีเงินสะพัดมากกว่าตลาดสมาร์ทโฟนเสียอีก จึงทำให้กรมสรรพากรกำลังพิจารณาศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ในจัดการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการซื้อแอพพิลเคชันบน Google Play และ App Store ทางกรมสรรพากรกล่าวว่าปีที่ผ่านมามูลค่าโดยรวมของตลาดแอพพิลเคชันสูงถึง 15,000 ล้านบาทและในปีนี้น่าจะสูงถึง 20,000 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนนี้ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไปถึง 1,400 ล้านบาท
แต่การจัดเก็บคงยังไม่มีในเร็วๆ นี้ เพราะทางกรมสรรพากรยังต้องศึกษาวิธีการจัดเก็บภาษี เพราะผู้ค้าบางรายไม่ได้ตั้งบริษัทอยู่ประเทศไทย
ประเด็นต่อมาถ้ามีการจัดเก็บภาษีแล้วจะทำให้ราคาแอพพิลเคชันบน Google Play และ App Store สูงขึ้นหรือไม่ ผมคิดว่าคงไม่ ภาษีมูลค่าเพิ่มคงจะรวมอยู่ในราคาของแอพพิลเคชันอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ไทยยังไม่ได้เรียกเก็บเท่านั้นเอง ตามรูปด้านบนตรงวงกลมสีแดงจะเห็นว่าตรงราคารวม (Total) ถ้าเป็นของไทยจะไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มรวมอยู่ในนั้น
ในกรณีนี้ยังไม่แน่ชัดว่าบริการอื่นๆ บน Google Play และ iTunes Store จะถูกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยไหม เช่นการซื้อขายเพลง เช่า/ซื้อภาพยนต์ และ การซื้อขายหนังสืออิเล็คทรอนิค (eBook) และรวมไปถึงการใช้จ่ายในแอพพิลเคชันอย่าง In-App Purchase ด้วย
ถ้าโดนอาจจะส่งผลกระทบให้บริการอื่นๆ ใน Google Play ที่ในไทยยังไม่มี อาจจะถูกเลื่อนออกไป รวมไปถึงสิทธิในการส่งแอพพิลเคชันขึ้นไปขายบน Google Play ของนักพัฒนาประเทศไทยอาจจะต้องรอต่อไปอย่างไม่มีกำหนด และแน่นอนว่า App Store อย่าง Amazon App Store หรือ Windows Phone Store และอื่นๆ คงจะโดนเก็บภาษีด้วย
No comments:
Post a Comment