Thursday, May 31, 2012

[ข่าวลือ] Microsoft เตรียมปล่ิอย Microsoft Office ลง Android วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้

หลังจากมีข่าวลือเมื่ออาทิตย์ก่อนจาก BGR ว่า Microsoft จะปล่อย Microsoft Office ใน iPad และ Android ปลายปีนี้ มาในวันนี้ มีรายงานจาก The Daily ที่ยืนยันว่า Microsoft Office สำหรับ iPad และ Android จะปล่อยลง Apple App Store และ Google Play Store ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้

จากรายงานของ The Daily บอกว่าการพัฒนา Microsoft Office สำหรับ iPad เสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนที่แล้ว และตอนนี้กำลังเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ให้เสร็จก่อนเดือนกันยายน เพื่อให้เวลากับ Apple ในการขออนุญาตินำแอพไปขึ้นบน App Store ได้ทันในวันเปิดตัววันที่ 10 พฤศจิกายนนี้

ส่วนทางด้านของ Android ทางนักพัฒนาบอกว่าตอนนี้กำลังพัฒนาอยู่ แต่คาดว่าจะเสร็จทันและเปิดตัวพร้อมกันกับ Microsoft Office สำหรับ iPad

ที่มา Phandroid

ASUS เตรียมเปิดตัว Tablet dual-boot ระหว่าง Windows และ Android ในงาน Computex2012


หลังจากที่ปล่อยทีเซอร์ Next Transformations ให้ลุ้นกันว่ามันคืออะไร แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร = = มาในวันนี้ทาง ASUS ได้ปล่อยทีเซอร์อีกชุด โดยในวิดีโอจะมีหยดน้ำที่แยกออกเป็น 2 หยด จากนั้นก็จะมี Logo ของ Windows และ Android ขึ้นมา

มีความเป็นไปได้ว่าที่ ASUS จะเปิดตัว Tablet ระบบ dual-boot ที่จะมาพร้อมกับ Android และ Windows ซึ่ง ASUS ไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำ Tablet ระบบ dual-boot โดย Lenovo เคยทำมาก่อน (อย่างเช่น U1 Hybrid ในวิดีโอด้านล่าง)


รูปร่าง หน้าตา รายละเอียดอื่นๆ รอลุ้นในงาน Computex 2012 ในวันที่ 4 มิถุนายน นี้

ที่มา Phandroid

Mobbles: เกมส์ที่ผสมผสานระหว่าง Pokemon และ Tamagotchi อย่างลงตัว

เชื่อว่าในวัยเด็กใครหลายๆ คนคงเคยได้เล่นเกมส์ในตำนานอย่าง Pokemon หรือของเล่นสุดไฮโซในสมัยวัยเด็กอย่าง Tamagotchi ที่เคยฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง โดย Pokemon เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยกดปุ่ม A, B รั่วๆ เวลาขว้าง Poke' Ball เพื่อจับ Monster ในตำนานทั้งหลาย หรือถ้าเป็นผู้หญิงก็ต้องมีสัตว์เลี้ยงดิจิตอลอย่าง Tamagotchi ติดไว้ในพวกกุญแจ ใครไม่มีในช่วงนั้นถือว่าเฉย

มาในวันนี้ทาง Mobbles Corp. ได้นำแนวคิดของสัตว์เลี้ยงดิจิตอลอย่าง Tamagotchi และแนวคิดการจับ Monster เพื่อทำให้สมุดภาพ Pokemon ครบสมบรูณ์ ผนวกกับการเอาเทคโนโลยี Location Base จนกลายมาเป็น Mobbles


ลักษณะของเกมส์ เราต้องไปตามจับ Monster ต่างๆ ซึ่งมีมากกว่า 60 ชนิด โดย Monster ต่างๆ จะอยู่รอบๆ ตัวเรา โดยเกมส์จะสุ่มออกมาให้เราจับตามแต่ตามสถานที่ที่เราไป โดยอิงจากสถานที่จริงในโลกอย่างรูปด้านล่าง อารมณ์ประมาณว่าเดินเข้าพงหญ้าเพื่อหา Pokemon


เราต้องเข้าไปอยู่ในรัศมีของเรด้านั้นก่อนถึงจะจับ Monster ได้ พอจับมาแล้วเราก็ต้องเลี้ยง Monster เหล่านั้นเหมือน Tamagotchi ให้อาหาร อาบน้ำ แต่งตัว เล่นกับมัน เป็นต้น


นอกจากนี้ยังสามารถแลกเปลี่ยน Monster กันระหว่างเพื่อนๆ ได้ด้วย ใครที่สนใจสามารถไปโหลดเล่นฟรีได้ใน Google Play Store

ปล. เสียดายที่เอา Monster มาสู้กันอย่าง Pokemon ไม่ได้ = =

Google Translate for Android อัพเดทใหม่มาพร้อมกับ UI แบบ Ice Cream Sandwich


ช่วงนี้มีหลายๆ application กำลังทยอยแปลง UI ของตัวเองให้เป็น ICS รวมถึง application ต่างๆ ของ Google เองก็กำลังทยอยเปลี่ยน UI เช่นกัน วันนี้ถึงคิว Google Translate for Android ที่ได้รับการอัพเดท UI ให้เป็นแบบ ICS โดยการอัพเดทครั้งนี้ไม่ได้เพิ่มลูกเล่นอะไรเข้าไปใหม่นอกจากเปลี่ยน UI เท่านั้น


ผมเพิ่งรู้เหมือนกันว่าฟังก์ชั่น อ่านลายมือ ของ Google Translate มันเทพมาก สามารถอ่านลายมือแบบไก่เขี่ยดังภาพด้านบนรู้เรื่อง แต่เสียดายที่ยังไม่รองรับภาษาไทย สามารถตามไปอัพเดทได้ใน Google Play Store



Wednesday, May 30, 2012

Google Maps update เพิ่มข้อมูลรีวิวและคะแนนจาก Zagat


Google Maps for Android มีอัพเดทตามฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Google Maps โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือคะแนนและรีวิวตามสถานที่ต่างๆ โดยข้อมูลเหล่านี้เอามาจาก Zagat ที่ Google ซื้อมาเมื่อปีที่แล้ว นอกจากจะดูรีวิวและคะแนนได้แล้ว เรายังสามารถแสดงความคิดเห็นและให้คะแนนได้อีกด้วย จากที่ลองใช้ดูพบว่าข้อมูลสถานที่ในไทยตามเมืองใหญ่ๆ มีเยอะพอสมควร แต่ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ สามารถตามไปอัพเดทได้ใน Google Play Store

Flipboard เปิดให้ดาวน์โหลด APK สำหรับทดสอบแล้ว


จากข่าวเก่า Flipboard Beta กำลังจะมาสู่มือถือแอนดรอยด์ทุกเครื่องเร็วๆนี้ ตอนนี้ทางผู้ผลิตได้ปล่อย APK สำหรับทดสอบให้โหลดผ่านเว็บแล้ว (ที่นี่) โดยทางผู้ผลิตต้องการที่จะทดสอบให้มั่นใจก่อนที่จะนำขึ้น Play Store

หากใครเจอปัญหา หรือมีข้อแนะนำสามารถแจ้งได้ผ่านทาง Email:feedback@flipboard.com ครับ

ที่มา Engadget ผ่าน Phandroid
ปล. เวอร์ชั่นรันไปไวมาก เมื่อคืนยังเป็น 1.8.4-63-beta อยู่เลยตอนนี้เป็น 1.8.4-65-beta แล้ว

Monday, May 28, 2012

ASUS ปล่อยวิดีโอทีเซอร์ next transformations ให้รอลุ้นกันว่ามันคืออะไรในงาน Computex 2012

ปีที่แล้วในงาน Computex 2011 หากใครยังจำกันได้ ASUS ได้เปิดตัว Tablet รุ่นใหม่หลายรุ่น อย่าง PadPhone, Slider และ Memo และในปีนี้ ASUS ได้ปล่อยวิดีโอทีเซอร์ Next Transformations ให้เรารอลุ้นกันว่ามันคืออะไรในงาน Computex 2012 ที่จะจัดขึ้นวันที่ 31 พฤษภาคมนี้


จากในวิดีโอ จะเห็นว่าค่อนข้างคลุมเครือว่าิสิ่งที่ ASUS จะเปิดตัวอาจจะเป็น Tablet หรือ Notebook  และข้อสังเกตอีกอย่างทีเซอร์นี้มีเมฆตลอดทั้งวิดีโอ อาจจะเป็นการเปิดตัวของบริการบนกลุ่มเมฆ (Cloud) หรือบางที่อาจจะเป็นการเปิดตัว Nexus Tablet หลังจากที่มีข่าวลือ Nexus Tablet เตรียมลืมตาดูโลกเดือนหน้า ล็อตแรก 600,000 เครื่อง และอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับ Android ก็เป็นได้

ที่มา Phandroid
ปล. แอบโยงข่าวซะมั่วเลย อย่างนี้สินะที่เค้าเรียกว่านั่งเทียนเขียนข่าว = =

Motorola (Japan) ปล่อยวิดีโอแนะนำ Ice Cream Sandwich บน Motorola Razr


จากข่าวเก่าที่ Motorola บอกว่าจะไม่อัพเดท ICS ถ้ามันไม่ทำให้มือถือนั้นดีขึ้น ในวันนี้ทาง Motorola Japan ได้ปล่อยวิดีโอแนะนำการใช้งาน ICS บน Motorola Razr จากที่ผมดูวิดีโอคร่าวๆ บอกได้เลยว่า UI แบบเก่าๆ บน GingerBread 2.3 แทบจะไม่หลงเหลืออยู่ในการอัพเดท ICS 4.0 นี้เลย ดูแล้วเป็นเหมือน Pure Google ซะมากกว่า จะมีแตกต่างกันอยู่บ้างตรงหน้า Unlock Screen, application เกี่ยวกับการโทรและข้อความเท่านั้นที่ไม่เหมือน



นอกจากนี้ฟังก์ชั่นของกล้องก็ยังคงไม่ได้พัฒนาให้มีลูกเล่นเหมือนกับคู่แข่ง Samsung และ HTC ซักเท่าไร เพิ่มแค่เพียงฟังก์ชั่นที่มีอยู่แล้วบน Pure Google อย่างการถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse และการจับภาพในขณะถ่ายวิดีโอ

อาจจะเป็นเพราะแรงผลักดันจาก Google หลังจากที่ Google ซื้อ Motorola ไปเลยทำให้ Motorola อัพเดท Motorola Razr และ Razr Maxx ออกมาในลักษณะแบบนี้

ที่มา Phandroid

Sunday, May 27, 2012

วิดีโอรีวิว ICS 4.0 บน Xperia S [ภาษาไทย]


จากข่าวเก่า Xperia S จะได้รับการอัพเดท ICS ปลายไตรมาส 2 นี้ ซึ่งเดือนมิถุนายนก็จะเป็นเดือนสุดท้ายของไตรมาส 2 ล่าสุดก็มีความเคลื่อนไหว มีวิดีโอรีวิวเวอร์ชั่นภาษาไทยของ ICS 4.0.4 บน Xperia S จากเว็บ Sony XP โผล่มาให้เราได้ดูกัน


โดยเวอร์ชั่นที่อยู่ในวิดีโอทาง Sony XP บอกว่ายังเป็นเวอร์ชั่นทดลองอยู่ คาดว่าอีกไม่นานคงจะปล่อยมาให้ชาวอารยธรรมได้โหลดกัน

ขอบคุณวิดีโอจาก Sony XP

Friday, May 25, 2012

[วิเคราะห์] มือถือ Android ต้องการ RAM ถึง 2GB หรือไม่


จากข่าวเก่าที่บอกว่า Galaxy S3 ในญี่ปุ่นจะมาพร้อมกับ RAM 2GB  ซึ่ง LG เพื่อนร่วมชาติของ Samsung ก็ไม่น้อยหน้า เปิดตัว Optimus LTE2 ในเกาหลีที่จะมาพร้อมกับ RAM 2GB เช่นกัน และอีกข่าวนึงที่บอกว่า Samsung กำลังพยายามผลักดันให้ RAM 2GB ให้กับสินค้ารุ่นเรือธงของตัวเอง เป็นเหมือนสัญญาณบ่งบอกว่าตลาดมือถือ Android ครึ่งปีหลังแต่ละค่าย อาจจะยัด RAM มาให้ถึง 2GB ในสินค้ารุ่นเรือธงของตัวเอง

ซึ่งมันก็จะมีคำถามตามมาว่า มันจำเป็นหรือที่มือถือ Android ต้องการ RAM ถึง 2GB เนื่องจากว่าพวกเราเองก็ยังไม่เคยเห็นมือถือ Android ที่มี RAM ถึง 2GB เราจึงยังไม่รู้ว่าเมื่อ RAM มันเยอะขึ้นมันจะทำให้มือถือเราเร็วขึ้นเหมือนอย่างควรจะที่เป็นในคอมพิวเตอร์หรือเปล่า

โดยทั่วไปแล้วในคอมพิวเตอร์ เมื่อเราเพิ่ม RAM ให้กับมันเราจะรู้สึกว่าคอมพิวเตอร์เราแรงขึ้น ดังนั้นสิ่งที่เราหวังให้มันเกิดขึ้นเมื่อ RAM เพิ่มขึ้นคือ
  • ประสิทธิภาพของ multi-tasking เพิ่มขึ้นเมื่อเราเปิดแอพเยอะๆ จะได้ไม่เป็นเหมือนในข่าวนี้ HTC เผย แอบปรับเปลี่ยนระบบ MultiTasking เพื่อให้ประหยัดแบต ส่งผลแอพฯแบคกราวด์ปิดตัวเองบ่อย 
  • สามารถเปิด tab บนบราวเซอร์ได้เยอะขึ้น หรือแม้กระทั่งสามารถเล่นเกมส์ Facebook โดยผ่าน Flash Player ได้สบายๆ 
  • และอีกอย่างนึงที่หวังเป็นที่สุด เมื่อ RAM เยอะขึ้นหวังว่ามันคงจะพอสำหรับ Launcher (อย่าง Sense UI) หรือ Live Wallpaper จนทำให้สามารถทำงานได้โดยไม่มีกระตุก (ตรงนี้หวังว่านักพัฒนาจะปรับปรุง UI หรือ Live Wallpaper ให้กิน RAM น้อยๆ ดีกว่า)

จากความหวังข้างบน มันยังเป็นแค่สมมติฐาน แต่มันจะเป็นจริงหรือไม่รอดูตอนที่ RAM 2GB บน Android ออกมาจริงๆ นอกจากที่กล่าวมาด้านบนแล้ว RAM 2GB ยังมีความจำเป็นมากกับระบบ Desktop ที่ Motorola พยายามทำอยู่อย่าง Webtop 3.0 หรือ ASUS ที่พยายามแปลง Android 4.0 ใน Transformer Prime ให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์ยิ่งขึ้น


ซึ่งสิ่งที่ Motorola กับ ASUS ทำนั้นยังถือว่าไม่ดีพอ เพราะว่า RAM ที่น้อยเกินไป ทำให้การที่จะเอามาใช้แทนคอมพิวเตอร์ดูไม่ราบรื่น ซึ่งแนวทางที่กล่าวมานั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างตรงแนวคิด (Concept) ของสิ่งที่ Google อยากทำ (Chrome OS) แต่เราคงต้องรอดู Android 5.0 (Jelly Bean) ที่กำลังจะออกมาว่าฟีเจอร์ทาง Software และ Hardware ที่จะเป็นมาตรฐานให้กับ Android จะออกมาในทิศทางใด เหมือนที่ Galaxy Nexus ได้สร้างปรากฎหารณ์สร้างมาตรฐานไว้ให้กับตลาด Android

เราทำได้แค่รอลุ้นในงาน Google I/O ปลายเดือนหน้าว่าตลาด Android ในช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางเป็นยังไง (รอลุ้น new Nexus ทั้ง 5 ตัว)

แปลมาจาก Android and Me

ปล. ช่วงท้ายๆ แอบใส่ความคิดส่วนตัวลงไปด้วย

ประสบการณ์เอามือถือส่งศูนย์ Samsung

เนื่องจาก Galaxy Nexus ของผมมีปัญหาเรื่องการคุยสายสนทนา ปลายทางจะแทบไม่ได้ยินเสียงสนทนาของผมเลย ตอนแรกคิดว่าเป็นที่ Software เลย Factory Reset ใหม่ ปรากฎว่าเสียงดีขึ้นแหะ แต่พอใช้ไปซักวันสองวันเสียงกลับมาแย่เหมือนเดิม เลยกะว่าจะไปให้ศูนย์ดู

โดยก่อนจะเข้าศูนย์ผมต้องหาทางลง Rom ศูนย์ไทยใน Galaxy Nexus ก่อน ซึ่ง Rom ศูนย์ไทยจะไม่มีตัวสำหรับ Flash ให้โหลดทางอินเตอรเน็ตเหมือนอย่าง Galaxy รุ่นอื่นๆ ผมเลยจำเป็นต้องหาตัว Recovery ที่มีคนทำ Backup ไว้ให้ โชคดีที่คุณ thedespจาก droidsans ทำ Backup เวอร์ชั่น 4.0.1 ไว้ http://droidsans.com/node/50052

แต่ตัว Recovery ที่ท่าน thedesp ให้มานั้นมีปัญหาเรื่องการอัพเดทไปเป็น 4.0.2 ซึ่งเรื่องนี้ท่าน thedesp เคยบอกวิธีแก้มา คือต้อง Flash 4.0.1 Official จาก Google ก่อนค่อย Recovery Rom ศูนย์กลับ แต่ว่าตอนนี้ Google ลบ link ของ 4.0.1 ไปแล้วเหลือแต่ 4.0.4 ทำให้ไม่สามารถกลับมา Rom ศูนย์ได้สมบูรณ์ ผมก็เลยลองเสี่ยงดวงดูเอา 4.0.1 ที่ไม่สมบรูณ์ลองเอาไปเข้าศูนย์

ปรากฎว่าทางศูนย์เค้ารับเรื่องของเรา ที่บอกว่ามีปัญหาเรื่องเสียงสนทนาและร้องขอให้ทางศูนย์ลง 4.0.2 ด้วย ทางศูนย์บอกขอเวลาซัก 5 วันจะเอาเครื่องไปทดสอบ ถ้าหากเสียจริงก็จะเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ พอครบกำหนด 5 วันผมเลยโทรไปถามศูนย์ เค้าก็บอกว่ายังไม่เสร็จกำลังเปลี่ยนอุปกรณ์ ให้มาเอาพรุ่งนี้ตอนทุ่มนึง

วันรุ่งขึ้นผมเลยไปเอาตามที่ช่างบอก พอไปถึงหน้าเคาท์เตอร์ พนักงานก็ถามว่าโทรมาสอบถามแล้วยังว่าซ่อมเสร็จแล้วยัง ผมบอกโทรมาถามแล้วครับ ยื่นใบซ่อมไปซักพักพนักงานจะหยิบเครื่องมาให้แล้วเค้าก็ให้เราเซ็นรับเครื่อง แล้วผมก็ถามว่า

ผม: เอ่อยังไม่ได้เช็คเครื่องเลยนะครับ = =;
พนักงาน: ไม่เป็นไรค่ะ เซ็นก่อนแล้วไปนั่งด้านหลังเพื่อเช็คเครื่อง

ประมาณว่า ถ้าเครื่องยังมีปัญหาอีก ผมก็ต้องส่งเรื่องเพื่อซ่อมใหม่แล้วรอคิวอีก 5 วันหรือเปล่า อีกอย่างถ้าเกิดตอนซ่อมทางช่างเกิดทำเครื่องผมเสียหายอะไรขึ้นมา อย่างเช่นเป็นรอย คุณจะมาโบ้ยผมหรือเปล่า ว่าคุณรับเครื่องไปแล้วทำไมไม่ตรวจสอบก่อนหละ = =;

ด้วยความที่กลัวดราม่า เลยภาวนาอย่าให้มีปัญหา เปิดเครื่องมาพบว่าทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ Flash 4.0.2 ให้ แต่ช่างมันลองโทรดูก่อน ปรากฎว่าเสียงกลับมาเป็นปกติ :) เห้อรอดตัวไป เลยเดินกลับมาที่พนักงานบอกเค้าว่ายังไม่ได้อัพเดท 4.0.2 ให้ เค้าเลยเอาเครื่องผมไป Flash ให้ รอซักพักเค้าก็บอกว่าเสร็จแล้ว ก็เลยลองกดอัพเดทดู ผ่านฉลุยเลยครับ

เหมือนว่าจะไม่มีดราม่าแล้ว เพิ่งมาสังเกตตอนเปิดเครื่องมันมีรูปกุญแจปลดล็อคนี่หว่า อ่าว เห้ย พนักงานทำไม Unlock Bootloader มาให้ ไหนบอกว่าการ Unlock Bootloader ทำให้ประกันเสียไง หัวเสียมาก ดีนะที่ไม่ได้เห็นตอนอยู่ในศูนย์ ไม่งั้นมีดราม่าละ เซ็ง

สรุป ประสบการณ์จากการเข้าศูนย์ Samsung
  • ก่อนจะไปรับเครื่องที่ศูนย์ เมื่อถึงกำหนดแล้วต้องโทรไปถามที่ศูนย์ก่อนว่ารับเครื่องได้ยัง ไม่งั้นจะไปเก้อ เพราะศูนย์จะไม่มีทางติดต่อมาหาเรา
  • ทางศูนย์ก็ไม่มี ROM 4.0.2 ให้ Flash โดยตรง มีแค่ 4.0.1 เท่านั้นแล้วเค้าจะกดอัพเดท 4.0.2 ผ่าน OTA อีกที ดังนั้นใครจะเอามือถือไปให้ศูนย์อัพ 4.0.2 อัพเองเหอะจะได้ไม่เสียเวลา
  • ใครที่เอามือถือไปให้ที่ศูนย์อัพเดท ควรตรวจดูให้ดีว่าเค้า Unlock Bootloader เครื่องเราหรือเปล่า เพราะสำหรับผู้ใช้ธรรมดาที่ไม่เคยเอาเครื่องไปโม หรือทำอะไรไม่เป็น อาจจะมีปัญหาถึงกับประกันเสียถ้าหากเอาเข้าศูนย์อีกครั้ง
  • ไม่ชอบตอนรับเครื่องที่พนักงานบังคับให้เราเซ็นรับของโดยที่ไม่ให้เช็คมือถือก่อนจะรับคืน

Thursday, May 24, 2012

Galaxy S3 TouchWiz พอร์ทลง Galaxy S2, Galaxy Note และ Galaxy Nexus แล้ว

หลายคนที่กำลังเบื่อกับ UI ของ Pure Google ใน Galaxy Nexus หรือว่าเซ็งกับ Galaxy Note และ Galaxy S2 ที่ถึงแม้จะได้รับไอติมไปกินแล้ว แต่มันดันมี Feature ไม่เร้าใจเหมือน TouchWiz ของ Galaxy S3 วันนี้มีคนได้พอร์ท TouchWiz UI ของ Galaxy S3 มาลงใน Galaxy Nexus, Galaxy Note และ Galaxys S2 แล้ว

Galaxy Nexus
มาดูกันที่ Galaxy Nexus ก่อน Galaxy Nexus มีให้เลือกด้วยกันสองตัวเลือกคือ Launcher และ Add-on สำหรับ Custom-Rom อย่าง CM9, SlimICS หรือ Custom-Rom อย่าง AOKP (ที่รอการพิสูจน์ว่าใช้ได้จริงหรือเปล่า) เท่านั้น


มาดูที่ Launcher ก่อนซึ่งผมว่ามันดูง่อยๆ ไปเพราะเหมือนว่า TouchWiz ไม่ได้มาอย่างเต็มระบบ ทำให้การใช้งานอาจจะมีกลิ่นอายของ ICS มากกว่าที่จะเป็น TouchWiz สนใจสามารถทดลองทำตามได้ที่นี่ http://forum.xda-developers.com/showthread.php?t=1669238


ส่วน Add-on นี่เรียกว่าจัดเต็มเลยก็ว่าได้ ค่อนข้างจะสมบรูณ์กว่า Launcher ตัวแรก ตอนนี้กำลังเร่งพัฒนากันอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็ใส่ S-Voice เข้าไปแล้ว ใครที่สนใจทดลองลงได้ที่นี่ http://forum.xda-developers.com/showthread.php?t=1669190

Galaxy S2


ผมไม่รู้ว่าด้านในมีอะไรบ้าง ใครที่ลองลงแล้วฝากบอกด้วยครับ ใครที่สนใจทดลองลงได้ที่นี่ http://forum.xda-developers.com/showthread.php?t=1666384

Galaxy Note


ของ Galaxy Note ค่อนข้างลื่นไหลเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมี S-Voice ให้เล่นด้วย ใครที่สนใจทดลองลงได้ที่นี่ http://forum.xda-developers.com/showthread.php?t=1652831

ที่มา Phandroid

ปล. .ใครลองทำตามแล้วเกิด Brick เปิดไม่ติด ไม่รับผิดชอบนะครับ ผมแค่แนะนำเฉยๆ อีกอย่างมันยังไม่สมบรูณ์ bug เยอะมาก เอาไว้ลองเล่นดูขำๆ

[ข่าวลือ] 555+ Google ฉลอง Android ครบรอบ 5 ปี จะขาย new Nexus พร้อมกัน 5 รุ่น วันที่ 5 พฤศจิกายน

จากข่าวลือครั้งที่แล้ว ที่ Google จับมือกับผู้ผลิต 5 รายเพื่อผลิต new Nexus ที่คาดว่าจะมาพร้อมกับ Android 5.0 Jelly Bean และออกมาพร้อมกันที่เดียว 5 รุ่น โดย Google จะเปิดขายเองใน Play Store ทั่วโลก

มาในวันนี้ทาง TalkAndroid ได้รายงานข่าวจากแหล่งข่าวที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ว่าทาง Google เตรียมปล่อย new Nexus ออกมาในวันที่ 5 พฤศจิกายนปีนี้ ซึ่งหากเอาวันเวลาดังกล่าวมาเชื่อมโยง จะพบว่าเป็นวันเกิดของ Android ที่มีอายุครบ 5 ปีพอดี ถ้าหากนับจากวันที่ Google เปิดตัว Android อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2008 (Wikipedia)

เรื่องนี้จะจริงไม่จริงอย่างไรก็รอดูอีกทีในงาน Google I/O ปลายเดือนหน้าที่จะถึงนี้ครับ

ที่มา Phandroid


Wednesday, May 23, 2012

Paladog ลดราคาทั้งใน Play Store และ App Store 50%

เกมส์นี้ถือว่าเป็นเกมส์ที่ผมใช้ฆ่าเวลาระหว่างเดินทางเลย Paladog เป็นเกมส์ประเภทแนวป้องกันที่ทำภาพออกมาดี และมีอะไรให้ลองเล่นเยอะแยะ รับประกันคุณภาพโดยรางวัลจาก Apple App Store ผมซื้อมาตอนราคาเต็มประมาณ 62 บาท ตอนนี้อยู่ในช่วงลดราคาเหลือประมาณ 31 บาท


สำหรับใครที่อยากลองว่าตัวเกมส์เป็นยังไง ใน Play Store ก็มีเวอร์ชั่นฟรีให้ทดลองเล่น แต่จะเล่นได้ไม่กี่ด่าน แต่ถ้าอยากลองเล่นจนจบแบบฟรีๆ ใน Armor Game ผู้ผลิต Paladog ก็แปลงมาเป็นเวอร์ชั่น Flash ให้เราได้ลองเล่นแบบเต็มอิ่มผ่านเว็บบราวเซอร์ เป็นตัวเลือกก่อนที่ตัดสินใจจะซื้อเกมส์ ซึ่งเราสามารถเล่นได้จนจบสำหรับในโหมดของ Paladog แต่จะไม่มีโหมดของ Darkdog และ Survival ให้เล่น

Play Sotre: Free Version, Paid Version
Web Browser: Armor Game

ปล. ใน Armor Game มีเกมส์ดังๆ ที่มีอยู่ทั้ง iOS และ Android อยู่หลายเกมส์ ลองไป Search หาดูได้ครับอย่าง Kingdom Rush บน iPad

ว่าด้วยเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษตลอดชีวิตที่ผ่านมาของข้าพเจ้า


ตั้งแต่จำความได้ เจอกับภาษาอังกฤษมาตั้งแต่อนุบาล เริ่มแรกด้วยการท่อง A-Z พอมาขึ้นชั้นประถม ได้ห่างหายจากการเรียนภาษาอังกฤษไปพักนึง เพราะว่าโรงเรียนที่ผมเรียนนั้นเป็นโรงเรียนที่เน้นภาษาจีนหรือที่คนทั่วไปเรียกว่าโรงเรียนจีน (โรงเรียนมูลนิธิยะลาบำรุง) ต้องเรียนภาษาจีนตั้งแต่ ป.1 - ป.6 ซึ่งทางโรงเรียนสนับสนุนให้เรียนภาษาจีนอย่างเต็มที่ โดยมีการแจกทุนการศึกษาให้กับคนที่สอบภาษาจีนได้ที่หนึ่งถึงสามในแต่ละห้อง (นับเฉพาะภาษาจีนอย่างเดียวไม่นับวิชาอื่นเข้ามาร่วมด้วย)

แม่ผมเค้าอยากให้ผมได้ภาษาจีน เลยส่งให้เรียนโรงเรียนนี้ และยังให้ไปเรียนพิเศษภาษาจีนเสริมอีกตั้งแต่ตอน ป. 2 จนถึง ป. 6

เชื่อว่าคนที่อ่านอยู่คงสงสัยว่า ผมเรียนมาตั้ง 6 ปี ตอนนี้พูดภาษาจีนได้ไหม ต้องบอกตรงๆ ว่าลืมไปหมดแล้ว ทั้งๆ ที่ตอนเรียนได้ทุนการศึกษาบ่อยมาก เพราะสอบภาษาจีนได้ที่หนึ่ง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ผมพูดได้ ผิดกับแม่ผมได้เรียนภาษาจีนถึงแค่ ป. 4 แต่แกก็ยังพูดได้ = =

หลายคนอาจจะงงว่าในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มันมีโรงเรียนที่เน้นสอนภาษาจีนด้วยหรอ เพราะส่วนใหญ่เชื่อว่าหลายคนคงจะได้ยินแต่โรงเรียนสอนภาษาอิสลาม ที่ยะลานอกจากจะมีโรงเรียนจีนแล้ว ยังมีโรงเรียนในศาสนาคริสต์ด้วย อยากรู้ว่ายะลาเป็นยังไงลองตามไปอ่านในบทความของคุณ แพร  ศิริศักดิ์ดำเกิง ตอนที่ หนึ่ง สอง และ สาม ครับ

กลับมาที่เรื่องภาษาอังกฤษกันต่อ ถึงแม้ผมจะเรียนโรงเรียนจีน แต่ใช่ว่าเค้าจะไม่สอนภาษาอังกฤษ มาเจอมันอีกทีตอน ป.5 ป.6 ตอนนั้นจำได้น่าจะเรียนเกี่ยวกับ Persent Simple Tense และ Past Simple Tense นี่แหละ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเติม s/es และ d/ed หลังกิริยา นั่งท่องจำกิริยาสามช่อง ซึ่งตอนนี้ลืมไปหมดแล้ว

พอขึ้นมาในชั้นมัธยมต้น (ปี 2540) ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเน้นไปยัง Tense ทั้ง 12 แต่จำไม่ได้ว่ารวมถึง Passive voices ด้วยหรือเปล่า ตอนนั้นจำได้ว่าเกรดวิชาภาษาอังกฤษอยู่ในระดับกลางๆ ตอนเรียนมันรู้สึกว่าง่ายมั้ง แค่นั่งจำ Pattern ของ Tense แค่อย่างเดียว แล้วเอาไปตอบในข้อสอบ แต่เชื่อมโยงไม่เป็นว่าจะต้องเอาในใช้ในตอนไหน สอบเสร็จก็ไม่ได้สนใจอะไร เรียนจบก็ลืม

พอขึ้น ม. ปลาย (ปี 2543) ถ้าจำไม่ผิด จะเรียนเกี่ยวองค์ประกอบต่างๆ ของ Sentence (ประโยค) พวก Phrase, Article, If Clause และอื่นๆ ช่วงนั้นรู้สึกว่าภาษาอังกฤษของตัวเองนั้น Suck Seed มาก (ห่วยขั้นเทพ) เนื่องจากพื้นฐานพวก Tense ต่างๆ จาก ม.ต้น นั้นแย่มาก เพราะเรียนไปเพื่อแค่สอบผ่าน สอบเสร็จแล้วลืมเลย พอมา ม.ปลาย เหมือนเอาสิ่งที่เรียนจาก ม.ต้น ที่เป็นพื้นฐานมาต่อยอด ทำให้เป็นช่วงที่เรียนภาษาอังกฤษแล้วรู้สึกเหมือนฝันร้าย ข้อสอบที่พอทำได้ในตอนนั้น คือ Reading อ่าน Paragraph แล้วจับใจความจากแหล่งคำศัพท์ที่มีอยู่ในหัวแล้วแปลมั่วๆ เอา

หลังจากจบ ม.6 ผมก็ไปต่อ ปวส. เพราะว่า Entrance ไม่ติด ทำให้รู้ว่าภาษาอังกฤษของฝั่งสายอาชีพนี่ง่ายกว่าสายสามัญเยอะ นอกจากภาษาอังกฤษที่ผมมองว่ามันง่ายแล้ว วิชาคณิตศาตร์และวิทยาศาสตร์ ผมก็มีความรู้สึกเหมือนเรียนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของ ม.6 อีกครั้งแต่เป็นในระดับที่ง่ายขึ้นกว่าของ ม.6 เยอะ (อาจจะเป็นเพราะเคยเรียนมาก่อน)

ทำให้ผมไม่แปลกเลยว่าทำไมนักเรียนสายอาชีพ (ปวช.) เวลาเรียนในมหาวิทยาลัยตอนปีหนึ่งถึงเหมือนเป็นฐานคะแนนให้กับเด็กสายสามัญ (ม.ปลาย) เพราะหลักสูตรการศึกษาที่มันไม่เท่ากันนี่เอง

ตอนที่ผมเรียนม. ปลายอยู่ เด็กยะลานี่ เรียกได้ว่า บ้าเรียนพิเศษ หลังเลิกเรียนสี่โมงเย็น ก็จะพากันขับรถเครื่อง (มอเตอร์ไซค์) ไปเรียนพิเศษ เรียนวิชา ฟิสิกส์ เคมี คณิต เรียนวิชาละ ชม. เลิกอีกทีก็เกือบสองทุ่ม พอเสาร์อาทิตย์ พวกที่ฟิตหน่อยก็ไปเรียนอังกฤษ และชีวะ อีก ฟังดูแล้วเหนื่อยแทน = = ซึ่งผมก็เคยอยู่ในวังวนนั้น แต่พบว่ามันไม่ได้ทำให้การเรียนของผมดีขึ้นเลย

ความขยันเรียนนี้ ไม่ได้มีแต่เฉพาะเด็กสายวิทย์-คณิตเท่านั้น ผมเห็นเด็กเทคนิคยะลาที่เรียน อิเล็กทรอนิก บางคนที่เค้าก็มาเรียนพิเศษกับเค้าด้วย อย่างวิชา คณิตศาสตร์ และ ฟิสิกส์ เพราะหลักสูตรของสายอาชีพไม่เน้นเท่าสายสามัญ แต่เวลาสอบ Entrance ต้องไปสอบรวมกับสายสามัญ ทำให้สู้เค้าไม่ได้จึงต้องเรียนพิเศษเพิ่ม ถึงแม้ว่าจะมีมหาลัยในเครือพระจอมเกล้าจะเปิดรับสอบตรงก็เหอะ

กลับมาที่ภาษาอังกฤษกันต่อหลังจากที่ผมเรียนจบ ปวส. ได้เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ภาษาอังกฤษที่ผมได้พบนี้ เหมือนจะไม่ได้ไปพูดถึงในเรื่อง Tense กันแล้ว หรือพวก Phrase เพราะว่าเอาสิ่งที่เราเรียนมาทั้งหมดนั้น มาประกอบกันให้เป็นประโยคที่ดู หะ-รูหะ-รา(หรูหรา) ยิ่งขึ้น

คือเน้นการเขียน Sentence และสอนเกี่ยวกับพวก IC, DC และ Conjunction ที่เอาไว้เชื่อมต่อระหว่าง IC และ DC เอา Phrase มาใช้เสริมตกแตงประโยค อะไรประมาณนี้ จากนั้นก็สอนการเขียนเรียงความ โดยเอาหลักการเขียน Sentence ที่เค้าใช้สอนเอามาแต่งเขียนเรียงความ

ตอนนั้นการบ้านระหว่างเรียนจะให้หัวข้อไปเขียนเรียงความ โดยเรียงความที่เขียนไปส่งนั้น จำได้เลยว่าโดนวงกลมจุดผิดสีแดงเยอะมาก เพราะเวลาผมทำการบ้าน ผมจะแต่งเรื่องเป็นภาษาไทยก่อน พอแต่งเสร็จก็จะย้อนกลับไปให้มันกลายเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยความว่าพื้นฐานเรื่อง Tense ของเรานี้กากมาก เรื่องที่เป็นอดีตเราเขียนออกมาใน Present Simple Tense ทั้งหมด

พอรอบต่อมาก็ฉลาดขึ้น เวลาจะเล่าเรื่องในอดีต ก็จะหันมาใช้ V ช่องสอง แต่ใช่ว่าวงกลมสีแดงจะลดลง จะโดนเรื่อง Article ตลอดเพราะว่า Noun จะใช้โดดๆ ไม่ได้นะอย่างน้อยก็ต้องมีอะไรนำหน้าอยู่ด้วยตลอด และก็เป็นจุดผิดจนมาถึงตอนนี้ (เรื่องที่ฟังดูเหมือนง่าย แต่เชื่อว่าหลายคนก็คงผิดเหมือนผม) นอกจากนี้ก็เขียนประโยคผิดไวยกรณ์บ่อย อย่างเช่น เขียน Verb ติดกันสองตัว ซึ่งตามหลักไวยกรณ์ของภาษาอังกฤษมันไม่ให้เขียน เช่น
เขาต้องการนอน
ผมเขียนทื่อๆ ด้วยความจ๊าดง่าว แบบนี้
He want sleep.
ซึ่งที่จริงมันควรจะเป็นแบบนี้
He wants to sleep.
ซึ่งตอนนั้นยอมรับเลย ไม่รู้ว่าทำไมต้องแปลงเป็นแบบนี้ และความที่พื้นฐานไม่แน่น และอาจารย์เค้าจะไม่ได้มานั่งสาธยายสอนให้ฟังหรอก ทำให้ตอนนี้คิดว่าตัวเองควรที่จะเรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงๆ จังๆ ซักที ตอนแรกผมคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษ เรียนรู้แค่ Tense ทั้ง 12 แล้วก็มีคลังคำศัพท์อยู่ในหัวเยอะๆ ก็น่าจะพอแล้วสำหรับการอ่านหนังสือหรือบทความภาษาอังกฤษ แต่พอได้เรียนเสริมอย่างจริงๆ จังๆ พบว่ามันไม่พอ มันมีอะไรที่มากกว่านั้น

ในตอนต่อไปพบจะเล่าถึงประสบการณ์จากการเรียนภาษาอังกฤษจาก 3 สถาบันที่ผมได้ไปเรียนมา แต่ละที่เป็นยังไง และสำหรับเพื่อนๆ ที่คิดอยากจะเรียนจะได้เลือกถูกว่าที่ไหนเหมาะกับคุณ